ทำตาสองชั้น สวยหรือเสี่ยง อยู่ที่ฝีมือหมอ
แทบไม่ต้องบรรยายถึงความงามของ ดวงตาว่าสำคัญเพียงใด ไม่ว่าบทเพลง บทกลอน รูปถ่าย ภาพวาดของนางงาม นางแบบทั้งหลายก็พุ่งเน้นที่ดวงตา ของผู้หญิงทั้งนั้น ดวงตาแทบจะมีความสำคัญเหนือกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้าทั้งหมด จนคนมักจะพูดว่า ไหนดูหน้าดูตา หน่อยสิว่าสวยไหม? หน้าตาดีไหม ดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ ฯลฯ
ในดวงตา 1 คู่นั้นจะสวยงามหรือไม่ขึ้นกับส่วนประกอบ หลายอย่าง เช่น ขนาดของตา ขนตา และชั้นตา ปัจจัยเหล่านี้ล่ะครับ ที่ทำให้คนเราพอใจหรือไม่พอใจในดวงตาที่พ่อแม่ให้มาต่างกัน คนที่ไม่พอใจก็หันเข้าหาการทำศัลยกรรมตกแต่งความงามให้ช่วยแก้ไขให้สวยถูกใจยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการทำตาสองชั้น
ผลแห่งความงามจากการทำตาสองชั้น เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่เรียนมาก็ทำได้ไม่สวยแน่ แม้เรียนมาก็ใช่ว่าจะทำได้สวยทุกคน ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวแต่อย่างไร โดยปกติคนที่ไม่มีชั้นตาเลยจะดูเป็นคนตาดุกว่าคนที่มีชั้นตาซึ่งจะดูหวานกว่า ปัจจุบันนิยมคนตาสองชั้นว่าสวยกว่า แต่ก็ย่อมยังมีคนอีกมากที่นิยมชมชอบคนตาชั้นเดียวแบบตาหมวยๆ ไม่มีเล่าเต๊งอยู่ดี
ไม่มีข้อห้ามว่าตาแบบไหนที่ไม่ควรมาผ่าตัดทำตาสองชั้น เพราะเมื่อมีชั้นตาขึ้นมาก็มักสวยกว่าเดิมแล้ว ขอเพียงให้ได้เจอหมอฝีมือดีๆ ทำแล้วไม่เกิด ความไม่ปกติ ของชั้นตาขึ้นก็สวยแล้ว มีคนมักบ่นกันว่า การหาหมอที่จะทำตาให้เราสวยๆ นี่สิเป็นเรื่องยาก ส่วนหมอศัลยกรรมก็จะบอกว่า การผ่าตัดทำตาสองชั้นช่างเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย
ขั้นแรก หมอต้องมีความรู้ที่ถ่องแท้เกี่ยวกับกายภาพ ธรรมชาติของตา วิธีการผ่าตัด
ขั้นที่สอง หมอคนนั้นต้องเป็นคนใจเย็น ไม่เร่งรีบ มีความละเอียดประณีต มีสมาธิ และความตั้งใจทำงานอย่างดีเยี่ยม
ขั้นที่สาม หมอต้องมีสายตาที่ดี มือไม่สั่นเทา ร่างกายแข็งแรง เพราะต้องนั่งทำอย่างมีสมาธิตลอดการผ่าตัด
ขั้นที่สี่ เครื่องไม้เครื่องมือต้องละเอียดครบครัน เลเซอร์อาจมีความจำเป็นไม่มากเท่าความละเอียดของหมอ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปตามแผ่นโฆษณา แล้วจะ ไว้ใจได้กา
ไม่ใช่ว่าเห็นคลินิกใหญ่ๆ ป้ายหน้าร้านสวยๆ แล้วจะ ไว้ใจได้กา
ไม่ใช่ว่าเห็นหน้าหมอหนุ่มๆ หน้าตาหล่อดี แล้วจะ ไว้ใจได้กา
พูดราวกับว่าการเลือกแฟนยากเย็นฉันใด เลือกหมอผ่าตัดก็ยากเย็นฉันนั้น ไม่จริงหรอกครับ เลือกแฟนเราอาจจะดูหน้าตา รูปร่าง นิสัยใจคอ และฐานะการงาน ซึ่งต้องใช้เวลาคบดูกันนานๆ หน่อย จนบางคนเลือกมาทั้งชาติก็ยังหาแฟนดีๆ ไม่ได้เลยก็มี แต่เลือกหมอน่าจะง่ายกว่า เคล็ดลับคือการพูดคุยปรึกษาและดูผลงานของเขา การพูดคุยจะช่วยให้เรารู้ถึงภูมิปัญญาและนิสัยใจคอของหมอว่ามีความรู้ไหม ใจเย็นไหม เป็นต้น ส่วนการดูผลงานอาจดูจากคนที่หมอเขาผ่าตัดเสร็จแล้วเช่นคนไข้ในคลินิก คนรู้จักกันที่เคยไปผ่าตัดกับหมอคนนี้มา หรือภาพถ่ายผลงานของเขาเอง ประเภทโฆษณาอวดอ้างตัวเอง พูดแต่แง่ดีของการผ่าตัดอย่างเดียว อย่างนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจแน่นอน
ทีนี้มาถึงวิธีการผ่าตัดกัน ซึ่งมีหลักการให้เกิดชั้นตาก็คือการ เย็บผิวหนังติดกับส่วนของกล้ามเนื้อในการลืมตา ได้ระดับเป็นเส้น ชั้นตาที่สวยงาม พร้อมกับเอาเนื้อเยื่อที่เกินความต้องการออก เช่น ผิวหนังที่หย่อนแล้วก็ตัดทิ้ง หรือถุงไขมันตาที่โป่งก็ตัดส่วนที่เกินทิ้ง โดยทุกขั้นตอนต้องทำอย่างนุ่มนวล มีการห้ามเลือดทุกหยด และ ไม่ทำให้เนื้อเยื่อฟกช้ำ ไม่ใช่กระชากลากถูกัน ต้องใช้เครื่องมือเล็กๆ ที่ละเอียดอ่อนมาจับเนื้อเยื่อ มือต้องเบา การเย็บต้องประณีต ใช้เข็มและไหมขนาดเล็ก
หลังผ่าตัดแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากประคบเย็นทั้งวัน อย่านอนตลอด งดดื่มแอลกอฮอล์ พักฟื้นสัก 5-7 วันก็เริ่มยุบบวมพอไปทำงานได้ แต่ยังไม่สวยหรอกครับ เพราะชั้นตาในเดือนแรกมักจะยังบวมอยู่ ต้องใจเย็นๆ หน่อย แต่ถ้าผ่าตัดถูกต้อง จะสวยวันสวยคืนขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าทำแล้ว ไม่สวยล่ะ กลายเป็นตาตลก จะแก้ไขได้ไหม? ขอตอบว่ายากหน่อย ถ้าเป็นเสริมจมูกแล้วไม่สวยก็ถอดตัว ซิลิโคนทิ้งก็กลับมาเหมือนเดิม (ยกเว้นพวกเสริมด้วยการฉีดสารต่างๆ ไม่มีทางแก้ไขให้เหมือนเดิมได้) แต่การแก้ตายากกว่า เพราะการทำตามีการตัดเนื้อเยื่อออกไปบางส่วน มีการเย็บให้เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่ เชื่อมติดกันไปแล้ว การแก้ไขจึงทำได้ยาก แต่ก็อาจทำได้บ้างบางส่วน ถ้าไม่เละจนเกินไป คราวนี้การหาหมอแก้ครั้งที่สอง ยิ่งต้องเลือกหมอเก่งจริงๆ เท่านั้น
สรุปว่าการทำตาสองชั้นเป็นศัลยกรรมหนึ่งที่อาจช่วยให้คุณสวยจนชีวิตเปลี่ยนไปเลย หรือถ้าโชคไม่ดี ไม่สวย ก็ต้องเสียใจไปอีกนาน คนที่อยากทำตาก็ต้องพิถีพิถันในการเลือกแพทย์สักหน่อย ส่วนคนที่อยากเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งก็ต้องพิถีพิถันละเอียดในการผ่าตัดมากๆ เป็นพิเศษ เพราะการผ่าตัดตาสองชั้น ทำแล้วทำเลย แก้ยากเสียด้วย
Health Today
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น